เมื่อ วันที่ 5 มีนาคม 2558 ณ อาคารจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของประเทศ 7 แห่ง ประกอบด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อเป็นเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (Research University Network: RUN)
โดยมีพันธกิจ ในการประสานความร่วมมือและสร้างความเข้มแข็งในการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพ และสร้างขีดความสามารถทางการศึกษา วิจัยและพัฒนา ของประเทศและยกระดับสู่ภูมิภาคอาเซียน ประสานความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพนักวิจัย บัณฑิตศึกษา นักศึกษาและบุคลากรทางการวิจัย การร่วมดำเนินงานทางด้านการวิจัย การแลกเปลี่ยนและใช้ทรัพยากร ตลอดจนปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยในระหว่างพันธมิตรการวิจัย สร้างและขยายเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยกับมหาวิทยาลัย ภาครัฐ ภาคเอกชนหรือเครือข่ายอื่นๆ และถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีสู่สังคม ภาคผลิตและภาคบริการ
ทั้งนี้ได้มุ่งเป้าวิจัยใน 6 คลัสเตอร์สำคัญ คือ พลังงาน อาหารและน้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ วัสดุ สุขภาพ และอาเซียน ภายใต้กรอบแนวทางในการดำเนินงานที่ประกอบด้วย ความจริงใจ (Sincerely) ความเท่าเทียม (Equally) และสู่ความเป็นเลิศ (Excellently) หรือกล่าวง่ายๆ ว่า "SEXy way" โดยมีกรอบแนวคิดของการแบ่งปันทรัพยากรในการวิจัย (sharing) อาจารย์และนักวิจัย นิสิตนักศึกษาทุกระดับ รวมทั้งหลังปริญญาเอก (postdoc) จากมหาวิทยาลัยหนึ่งสามารถมีที่ปรึกษาและไปทำงานวิจัยในอีกมหาวิทยาลัยหนึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และวิธีการบริหารงานวิจัย และร่วมกันสร้างโครงการวิจัยและถกปัญหางานวิจัยร่วมกัน
ซึ่งในปีพ.ศ.2558 เป็นปีแรกของเครือข่ายฯ ศาสตราจารย์นายสัตวแพทย์ ดร.มงคล เตชะกำพุ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับหน้าที่เป็นประธานของเครือข่ายฯ และได้ร่วมกันวางผลสัมฤทธิ์เพื่อมุ่งสร้างความเข้มแข็งด้านการวิจัยเพื่อการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับพัฒนาประเทศและภูมิภาคอาเซียน สร้างและพัฒนาศักยภาพนักวิจัย บัณฑิตศึกษา นักศึกษาและบุคลากรทางการวิจัยของพันธมิตรการวิจัยและของประเทศ อีกทั้งการสร้างนวัตกรรม งานวิจัยแบบบูรณาการเพื่อความยั่งยืน นับเป็นมิติใหม่ของการผนึงกำลังในวงการวิจัยของทั้ง 7 มหาวิทยาลัยต่อไป
ที่มา
www.kku.ac.th/news/v.php?q=0008686&l=th